24 July 2018

กลุ่มบางจาก คอร์ปอเรชั่น ผนึก กลุ่มน้าตาลขอนแก่น หนุน ‘บีบีจีไอ’ รุกธุรกิจผลิตชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (HVP)

‘กลุ่มบางจากฯ’ ผนึกกำลัง กลุ่มน้ำตาลขอนแก่น ร่วมจัดตั้ง ‘บีบีจีไอ’ เพื่อเข้าลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งรวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล ไบโอดีเซล และผลิตภัณฑ์พลอยได้ รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว พร้อมเล็งต่อยอดสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง สู่การขยายธุรกิจวัสดุชีวภาพและเคมีชีวภาพ รับภาครัฐเร่งผลักดันอุตสาหกรรมชีวภาพ (Bio Industry) แจ้งเกิดในประเทศไทย พร้อมตั้งเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและขยายกำลังการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานภายในประเทศ

นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (“BBGI” หรือ บริษัทฯ) เปิดเผยว่า กลุ่มบางจากฯและกลุ่มน้ำตาลขอนแก่น ร่วมทุนกันจัดตั้ง บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนร้อยละ 60:40 ตามลำดับ เพื่อเข้าลงทุนถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล ไบโอดีเซล และผลิตภัณฑ์พลอยได้ รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ ถือเป็นผู้ประกอบการธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ของประเทศไทย โดยได้ถือหุ้นในบริษัทย่อย 3 บริษัท ได้แก่ 1.) บมจ.เคเอสแอล กรีน อินโนเวชั่น (KGI) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเอทานอลที่ใช้กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบ 2.) บริษัท บางจากไบโอเอทานอล (ฉะเชิงเทรา) จำกัด (BBE) ผู้ผลิตและจำหน่ายเอทานอลโดยใช้มันสำปะหลังสดและมันสำปะหลังเส้น และ 3.) บริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) ผู้ผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซล โดยใช้น้ำมันปาล์มดิบ เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต

“เรามีวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นกลุ่มบริษัทผลิตภัณฑ์ชีวภาพระดับนานาชาติด้วยนวัตกรรมสีเขียว และดำเนินธุรกิจด้วยแนวทางอย่างยั่งยืน ซึ่ง BBGI มีเป้าหมายที่จะขยายทั้งธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่โดยมุ่งไปสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (High Value Product) หรือ HVP เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว โดยนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพและวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจ รองรับภาครัฐเร่งผลักดันอุตสาหกรรมชีวภาพ (Bio Industry) แจ้งเกิดในประเทศไทย” นายพงษ์ชัย กล่าว

นายชลัช ชินธรรมมิตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ BBGI กล่าวว่า กลุ่มบริษัทฯ มีความได้เปรียบทางธุรกิจจากการมีกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจต้นน้ำและปลายน้ำของผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ ทั้งจากกลุ่มบางจากฯ ที่มีจำนวนสถานีบริการน้ำมันมากกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ และจาก บมจ.น้ำตาลขอนแก่น ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายรายใหญ่ ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีความมั่นคงด้านวัตถุดิบ มีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการการสั่งซื้อวัตถุดิบ และได้รับประโยชน์จากการประหยัดจากขนาด (Economies of Scale) นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังมีพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเข้มแข็งและพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินงานกลุ่มบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและขยายกำลังการผลิตเอทานอล (เฉพาะบริษัทย่อย) และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซล ซึ่งสอดคล้องนโยบายภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพภายในประเทศ นอกจากนี้ มีแผนลงทุนธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (HVP) รวมถึงนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตเชื้อเพลิงไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกด้วย

“เรามีศักยภาพในการรุกขยายการลงทุนไปสู่อุตสาหกรรมชีวภาพ เนื่องจากมีองค์ความรู้และความพร้อมด้านความมั่นคงของวัตถุดิบ โดยมีแผนนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพมาสร้างมูลค่าเพิ่มสู่ธุรกิจวัสดุชีวภาพและเคมีชีวภาพ” นายชลัช กล่าว